วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เทคนิคในการห่อมะม่วง



DSCF0117มะม่วงในปัจจุบันถือได้ว่าเป็นไม้ผลที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ที่สำคัญอันดับต้นๆของประเทศ สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนมะม่วงเป็นอย่างมาก ความต้องการบริโภคมะม่วงภายในประเทศและต่างประเทศนับวันจะเพิ่มสูงขึ้น ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกมะม่วงประมาณ 2 ล้านไร่(กรมส่งเสริมการเกษตร 2541) ผลผลิตทุกปีประมาณ 9 แสนตัน พันธุ์ที่นิยมปลูกเพื่อการค้าได้แก่ น้ำดอกไม้เบอร์4 น้ำดอกไม้สีทอง เขียวเสวย โชคอนันต์ มหาชนก เขียวมรกต มันขุนศรี แหล่งที่ปลูกมะม่วงที่สำคัญได้แก่ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี กำแพงเพชร เชียงใหม่ ลำพูน แพร่ น่าน เชียงราย ประเทศไทยส่งออกมะม่วงคิดเป็นมูลค่าประมาณกว่า 400 ล้านบาท ประเทศที่ส่งออกได้แก่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม จีน สหรัฐอเมริกา แคนนาดา เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ และประเทศแถบตะวันออก แต่การผลิตมะม่วงของเกษตรกรยังประสบปัญหาในด้านปริมาณและคุณภาพของผลผลิตไม่ได้มาตราฐานตามความต้องการของตลาดต่างประเทศ ผลผลิต 100 กิโลกรัมอาจส่งได้เพียง 30 กิโลกรัมเท่านั้นในบางประเทศ แต่บางประเทศก็ไม่เข้มงวดมากนัก โดยเฉพาะปัญหาเรื่องโรค แมลง และสารเคมีตกค้างในผลผลิต และที่หลายประเทศกลัวกันมากคือ แมลงวันผลไม้ หรือแมลงวันทองนั่นเอง การแก้ปัญหาคือ “การห่อผลมะม่วง”

เทคนิคและวิธีการห่อมะม่วง DSCF9942
1.การปลิดผลทิ้งก่อนห่อ 
ปลิดผลที่รูปทรงผิดปกติ เช่น อกบุม บิดเบี้ยว ผิวลาย ผลเล็กต่างกันมาก สีเหลือง ควรเหลือไว้ต่อช่อประมาณ 2 ผลการห่อผลควรเลือกห่อเฉพาะผลที่สวย และรูปทรงปกติ ควรห่อ 1 ผลต่อ 1 ถุงเท่านั้น (เพื่อการส่งออก)เพื่อป้องกันผิวมะม่วงเสียดสีกันผิวไม่สวย ถ้าจะบริโภคเองหรือขายตามตลาดทั่วไปก็ห่อได้หลายผลต่อถุง แต่ถ้าห่อผลที่ผิดปกติดังกล่าวข้างต้น ถึงท่านจะห่อก็เสียทั้งเงิน ทั้งเวลา เพราะสุดท้ายผลก็หลุดร่วงอยู่ข้างในถุง ไม่เชื่อก็ลองดูก็แล้วกัน 
2.การห่อผลมะม่วง 
เพื่อป้องกันผิวมะม่วงเสียดสีกันหรือกระแทกกับกิ่ง ป้องกันโรคและแมลง ทำให้สีผิวสวย ลูกมีขนาดโตขึ้น วัสดุห่อผลทั่วไปนิยมใช้ กระดาษหนังสือพิมพ์ ถุงพลาสติกสีขุ่น ถุงกระดาษคาร์บอน ซุนฟง  
DSCF9946มะม่วงน้ำดอกไม้เบอร์4 น้ำดอกไม้สีทอง ใช้ถุงกระดาษคาร์บอน ข้างนอกจะเป็นสีน้ำตาลผิวมันน้ำไม่เกาะ ด้านในสีดำ เมื่อห่อไปแล้วจะทำให้มะม่วงน้ำดอกไม้เบอร์4 สีเขียวนวล ผลโตไม่มีไข่แมลงวันทอง หรือแมลงวันทองเจาะ ถ้าเป็นน้ำดอกไม้สีทอง ผิวจะเป็นสีเหลืองทองสวยงาม
มะม่วงโชคอนันต์ มะม่วงอกร่อง เขียวเสวย เขียวมรกต มันขุนศรี แรด แก้ว ฯลฯ 
ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ก็ได้ หรือจะใช้ถุงพลาสติกสีขุ่น แต่เชื่อหรือไม่ว่าถ้าใช้กระดาษคาร์บอนห่อราคาจะแพงกว่าใช้กระดาษหนังสือพิมพ์กิโลกรัมละ 5-6 บาท เลยทีเดียว ผิวมะม่วงที่ใช้กระดาษคาร์บอนห่อสีจะออกเขียวนวลสวยงาม ราคาถุงกระดาษคาร์บอน 1.50 บาท ต่อถุง
มะม่วงมหาชนก มะม่วงอาร์ทูอีทู 
DSCF9957ใช้ถุงพลาสติกสีขาวขุ่นจะให้สีสันตามลักษณะประจำพันธุ์ของมะม่วง เช่น สีเหลืองอมส้ม สีม่วงอมแดง
3.ระยะเวลาในการห่อ 
ความยาวของผลตั้งแต่ 10 เซนติเมตร หรือยาวกว่าไฟแช็คขึ้นไป ข้อควรระวังอย่าตัดก้านช่อหรือก้านใบที่เกะกะออกเพราะจะทำให้ยางติดผลมะม่วง 
4.ก่อนห่อผล
ควรพ่นสารเคมีกลุ่ม ออร์กาโนฟอสเฟต ชื่อการค้าทั่วไปในท้องตลาด เช่น มาลาไธออน ซอสตา ยิบไธออน ดอล-เอฟ เพื่อป้องกันการกำจัดแมลงวันทอง เพลี้ยหอย เพลี้ยแป้ง เพลี้ยจักจั่นช่อมะม่วง หลังจจากนั้นจึงห่อผล นับจากห่อมะม่วงประมาณ 60 วัน เก็บผลผลิตได้ วิธีการสังเกตการสุกแก่ของมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง คือปลายผลจะมีสีเข้มกว่าผล และมะม่วงทั่วไปนำไปจุ่มน้ำ ผลจะจมดิ่งในน้ำ ไม้กระดกตะแคง แปลว่ามะม่วงแก่แล้ว จึงเก็บมาบ่มได้ หรือจะวางไวในตะกล้าบนโต๊ะอาหาร ก็สามารถใช้ประดับได้ แล้วเขาจะค่อยๆหอมและสุกใน 4-5 วันจ๊ะ
สารเคมีที่ห้ามใช้
ไซเปอร์เมทริน อะบาเม็คติน ไดโนทีฟูแรน คาร์โบซัลแฟน คลอไพรีฟอส DSCF9974
โพรพิโคนาโซล 

ขนาดของผลมะม่วงเพื่อส่งออก
2S 225 – 249 กรัม
S 250 – 279 กรัม
M 280 – 329 กรัม
L 330 – 379 กรัม
2L 380 – 449 กรัม
3L 450 กรัมขึ้นไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น